Genesis

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วางแผนการออมเงินไว้ใช้จ่าย....หลังเกษียณอายุกันครับ

     การออมเงินไว้ใช่จ่ายหลังเกษียณ...เป็นการวางแผนการเงินที่คนไทยส่วนใหญ่ไม่รู้และไม่ค่อยเห็นประโยชน์ของมัน..เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องของอนาคตเลยไม่คิดจะออมเงินไว้ให้ตนเองหลังเกษียณอายุ ..แต่ถ้าเป็นคนที่ทำงานในรัฐวิสาหกิจหรือราชกาลและบริษัทใหญ่ๆก็ดีขึ้นมาหน่อยมีเงินก่อนที่สะสมต่อเดือนไว้ให้โดยการหลักจากเงินเดือน...แต่คุณคิดว่ามันจะพอใช่จ่ายหลังที่คุณเกษียณหรือป่าว...ดังนั้นคุณๆท่านๆต้องมีการวางแผนไว้ล่วงหน้านะครับ

     ผมมีตัวอย่างให้ทุกท่านได้เห็นว่าท่านออมเงินเดือนละไม่กี่พันท่านก็สามารถมีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณเดืยนละ 50,000 บาทได้สบายๆ...มาดูกันเลยครับ



     ท่านต้องการคำนวณตามความต้องการของท่านกดเข้าตรงนี้ครับ http://www.msn.com/th-th/money/tools/retirementplanner

     ท่านเห็นมั้ยครับ..เพี่ยงแค่่ท่านออมเงิน ประมาณเดือนละ 3,600 บาท จากการที่ท่านเริ่มทำงานหาเงินได้จนท่านอายุ 60 ปี ท่านก็จะมีเงินใช้จ่ายหลังจากที่ท่านเกษียณอายุ  เดือนละ 50,000 บาท และจำนวนเงินออมของท่านเพียง 980,000 บาทเองที่เหลือเป็นดอกเบี้ยทบต้น ท่านสามารถใช้จ่ายได้สบายๆจนท่านอายุ 90 ปี เลยครับ...ไม่ต้องเดือดร้อนลูกหลานหรือต้องไปรบกวนญาติพี่น้องให้เค้าไม่สบายใจ 

"เรามาเริ่มออมเงินไว้ใช้จ่ายหลังเกษียณกันเลยดีกว่าครับ "


























วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

หลังเกษียณจะสร้าง..รายได้ (Passive income) จากการ....ทำสวนมะนาว

      เมื่อท่านเกษียณ...ไม่ว่าท่านจะรับราชกาลหรือทำธุรกิจแล้วเกษียณอายุจากการที่ท่านได้ทำงานหนักและเหนื่อยลามาจนถึงเวลาเกษียณ...แต่เวลาหลังวัยเกษียณนั้น 

ท่านได้สร้างPassive income ไว้แล้วหรือยัง...รายได้ที่ไม่ต้องทำงานหลังเกษียณอายุ เพื่อที่ท่านมีได้เงินพอกับค่าใช้จ่ายในแต่เดือนไม่เดือดร้อนลูกหลาย..ผมเชื่อเหลือเกินว่าท่านที่เกษียณอายุนั้นส่วนใหญ่จะไม่มีรายได้หลังเกษียณเพียงพอกับค่าใช้จ่ายต่างๆในแต่ละเดือน (เพราะเดียวนี้ไม่มีบำนาญแล้ว..) แต่ท่านยังมีเงินก่อนหรือบำเหน็จ (หรือบ้างท่านอาจจะมีหนีสินแถมมาด้วยหลักบำเหน็จแล้วเหลือไม่มาก)...ดังนั้นท่านต้องหารายได้หลังวัยเกษียณเพิ่ม...โดยการทำไร่ทำสวน(ท่านที่มีที่ดินเหลือหรือซื้อเก็บไว้หลังเกษียณ)...ท่านก็จะได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินผืนนี้...ส่วนท่านที่ไม่มีที่ดินเหมือนกับเค้าท่านต้องคิดมากกว่าคนอื่นๆ...ครับ

     มาดูกันครับว่าส่วนมะนาวจะสร้างรายได้หลังท่านเกษียณได้อย่างงดงามได้อย่างไร..

     การลงทุนทำสวนมะนาวนั้น...ไม่ได้ลงทุนสูงอย่างที่หลายคนคิด...แต่สร้างรายได้สูงกว่าที่ท่านคิด(คืนทุนเร็วครับ)

    ท่านลงทุนเพียง 1 แสนบาทท่านมีสวนมะนาวได้ 100 ต้น(พร้อมระบบน้ำ) ภายในหนึ่งปีท่านสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้วครับ..ต้นมะนาวร้อยต้นสามารถผลิตผลมะนาวได้ปีละ 1,500-2,000 ลูกต่อต้นต่อปี ขายลูกละ 1.5-2 บาท(ช่วงปกติถ้าหน้าแล้งราคาสูงกว่านี้ครับ) คิดที่ 1,500ลูกX1.5บาท = 225,000 บาทต่อปีครับ ปีแรกท่านก็คืนทุนแล้วครับ...ปีต่อไปท่านก็เก็บกำไรกินต่อเดือนก็ประมาณ 15,000-18,000 บาทต่อเดือนครับ..(เป็นผมอยู่สบายเลยครับ)

     เวลาทำงานก็ไม่มากและไม่เหนื่อยอย่างที่ท่านคิด..ทำงานวันละ 1-3 ชม./วัน รดน้ำก็ใช้ระบบรดน้ำอัตโนมัติครับ..ใส่ปุ๋ยบ้าง...พ้นยาบ้างตามอาการป่วยของต้นมะนาว เดินตรวจดูระบบน้ำบ้าง(ออกกำลังกายไปในตัว...ชีวิตดี้ดี)..ได้รับอากาศบริสุทธิ์ยามเช้าและยามเย็น(ช่วงกลางวันนอนหรือออกไปหาเพื่อนๆคุยกันเรื่องเก่าๆบ้างก็จะทำให่ท่านจิตใจแจ้มใสไม่เคลียร์...ดีทั้งสุภาพจิตและร่างกายครับ)

 

      ท้ายนี้...ฝากท่านที่จะทำสวนมะนาวหรือสวนอะไรก็แล้วแต่ท่านอยากจะทำหรือเห็นว่าดี..ท่านต้องไปดูหรือศึกษาจากสวนที่เค้าขายต้นพันธ์ให้ท่านนะครับก่อนนะครับว่าจริงอย่างที่เค้าว่าหรือป่าว..และให้คำปรึกษาหลังการขายหรือไม(เพราะเงินก่อนสุดท้ายของท่านมีจำกัดไม่สามารถหาใหม่ได้ง่ายๆ..ต้องระวังครับ)

" สุขสบาย สุขภาพแข็งแรง สุขใจทุกท่านนะครับ "




วันพฤหัสบดีที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การขึ้นภาษีรถยนต์..จะเกิดอะไรขึ้นกับอุตสาหกรรมนี้

วิเคราะห์ตื้นๆ...แบบจับฉ่ายเทรดเด้อ
     การขึ้นภาษีรถยนต์คิดแบบง่ายๆ ทำให้สินค้าแพงขึ้น ทำให้การซื้อขายรถยนต์น่าจะมีผลกระทบในระยะสั้นๆๆ...กว่าที่ผู้ซื้อจะมีความรู้สึกว่าเป็นเรื่องปกติ(รับรู้ราคาใหม่ได้)ถึงจะกลับมาซื้อใหม่อีกครั้ง..เหมือนตอนที่ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มแรกๆ..มาดูกันซิว่าถ้ามาตราการประกาศขึ้นภาษีในปี 59 ปีหน้าจะเกิดอะไรขึ้น

      จะเห็นว่ากลุ่มอุตสาหกรรมนี้ปรับตัวลงทันที..เมื่อกิดความกังวลหรือความไม่แน่ใจในอุตสาหกรรมนี้เกิดขึ้น ก็จะแสดงออกมาทางกราฟให้เห็น...ดังนั้นเราควรลดหุ้นหรือขายหุ้นบ้างส่วนออกเพื่อปรับพอร์ตลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นจริงในปี59..แต่เหรียญมีสองด้านเสมอบ้างคนอาจจะเห็นโอกาศเก็บหุ้นราคาถูก..แต่ท่านต้องมีความรู้แกะงบการเงินหรือวิเคราะห์ได้เป็นอย่างดี...และมีจิตรใจที่แข็งแก่งมากในการถือหุ้นกลุ่มนี้ ( มอร์ไซไม่เกี่ยวนะครับ..ถ้ามีของดีถือไว้ได้) 
     ส่วนตัวผมคงไม่หุ้นกลุ่มรถยนต์นี้แน่นอนครับ เว้นกลุ่มผลิตอะไหร่มอร์ไซ..ถ้ากราฟสวยมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น..ติดสแกนหุ้นที่ผมตั้งค่าไว้คงได้มีหุ้นติดไม้ติดมือแน่ๆๆ... สุดท้ายนี้อยากให้เพื่อนนักลงทุนได้นำข่าวที่เป็นนโยบายไม่ว่าจะเป็นของรัฐหรือบริษัทจดทะเบียนมาวิเคราะห์กันให้เป็นบ้างไม่มากก็น้อย เอาแบบสบายใจในการซื้อเลย..และขอให้เพื่อนนักลงทุนประสบความเสร็จในการลงทุนทุกท่านนะครับ...โชคดีครับ $_$

วันพุธที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วิธีการทำ Position Sizing พร้อมคำนวณ​ Risk to Reward แบบง่ายๆ

       การทำแบบนี้ป้องกันความเสี่ยงและเรายังสามารถรู้ถึงความเสี่ยงก่อนที่เราจะเข้าซื้อขายหุ้นนะครับ ส่วนตัวผมใช้ เวปนี้ครับง่ายดี http://www.tradingplanofgoku.com/ แถมการค้นหาหุ้นที่มีปริมาณซื้อขายผิดปกติให้ด้วยครับ ผู้รู้เค้ากล่าวไว้ว่า เมื่อความคุมความเสี่ยงได้เราจะสามารถอยู่รอดในตลาดที่โหดร้ายได้..ครับ
       มาเริ่มการใช้งานกันเลยครับ เมื่อเราต้องการซื้อตัวที่เราดูไว้ให้หาจังหวะเข้าตามฝีมือเลยครับ..ตัวอย่างหุ้นตัวนี้ครับ  

     
     เมื่อเราเห็นจังหวะเข้าซื้อแล้วเราก็ไปคำนวณหา Position Sizing
ครับ โดยเข้าเวปนี้ครับ http://www.tradingplanofgoku.com/ 
สมมติว่าเรามีเรามีเงินในพอร์ต 100,000 บาท เราเสี่ยงได้ 1% ของพอร์ต คือเสี่ยงได้ 1,000 บาท เราก็ได้จุดเข้าและจุดตัดขาดทุนแล้วจากกราฟ เราก็ได้กรอกในเวป เป้าหมายของราคาเราก็พอรู้ใช้ fibo 161.8 หรือ 261.8 เป้นเป้าหมายไม่เกินจริงเท่าไรครับ เรามาดูผลกันว่าเราจะต้องซื้อหุ้นตัวนี้เท่าไรและใช้เงินลงทุนเท่าไรกับความเสี่ยงที่เรารับได้คือ 1,000 บาท
     เราก็จะได้ จำนวนหุ้นที่จะซื้อคือ 2500 หุ้น ด้วยเงินลงทุน 7,000 บาท จุดตัดขาดทุนก็คือจุดต่ำก่อนหน้าที่ผ่านมา 2.40 บาท เป้าหมายคือ fibo 261.8 = 3.50 บาท ราคาเข้าซื้อ = 2.80 บาท Risk to Reward = 1.75 ไม่ค่อยดีเท่าไรอัตราผลตอบแทนไม่ถึง 2 ถ้าเป็นหุ้นตัวนี้ผมต้องพิจารณาอีกครับว่าคุ้มค่ากับการลงทุนหรือป่าว ถ้าเราคุม Risk to Reward ไว้ที่ 2 หรือมากกว่า เมื่อหุ้นตัวไหนต้องตัดขาดทุนคือ -1,000 บาท ถ้าอีกตัวทำ Risk to Reward ได้ 2 เท่า เท่ากับเราเท่าทุนพอได้หรือตัวที่ได้กำไรทำ Risk to Reward ได้ 3 เท่า สรุปเราได้กำไร 1,000 บาทนะครับ ดังนั้นเราควรจะมี " วินัย " ทำตามแผนที่วางไว้ให้ได้เพื่อ พอร์ตของเราจะไม่เสียหายมากและเมื่อตลาดกลับมาเป็นกะทิงอีกครั้งเราคงมีพอร์ตที่เป็นบวกบ้างนะครับเพื่อนๆ..แล้วเจอกันที่ SET 2000+ นะครับเพื่อน..อย่าพึงหนีหายตายจากกันไปก่อนนะครับ...>_<

วันอังคารที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

สวัสดีครับ...ท่านผู้เข้ามาชม Blog นี้นะครับ

       สำหรับท่านที่สนใจในการเล่นหุ้น  ส่วนตัวผมพึ่งเล่นห้นได้ไม่นานนะครับ(ออกตัวก่อน) ที่ผ่านมาผมก็ได้ๆ เสียๆ ยังไม่สามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกัมเหมือนคนอื่นๆเค้า  แต่ด้วยเป็นคนชอบความสะบายเลยสนใจที่จะเล่นหุ้น (เห็นเค้ารวยกัน) แต่จากการได้ลองมาสองปีแล้วรู้สึกว่าชีวิตไม่ได้โลยด้วยกรีบกุหลาบอย่าที่คิด T_T ผมเลยอยากแชร์ความผิดพลาดหรือสิ่งที่เห็นในการซื้อขายหุ้นบางอย่างที่ไม่รู้ว่าคนอื่นเป็นเหมือนกันหรือเปล่า

     มีหลายคนเลยบอกไว้ว่าการเล่นหุ้นมีสองสาย สายแรกสายพื้นอลึกถึงสูตรต่างๆคงไม่ไหว เลยหนีมาทางเล่นทางสายกราฟดีกว่าน่าจะไปรอด (พอไม่ให้ขาดทุนหนักได้) 

     ผมขอแจ้งให้ทราบไว้ก่อนนะครับบล็อกนี้ไม่ได้แนะนำหุ้นรายตัวนะครับ..เป็นบล็อกเพื่อแสดงความคิดเห็นส่วนตัวในการซื้อขายหุ้นหรือการทำให้อยู่รอดในตลาดหุ้นที่แสนจะโหดร้ายได้(ถ้าตลาดอำนวจนะครับ...5555 )

     บล็อกนี้จะไม่มีพื้นฐานแน่นๆหรือสูตรอยากๆให้ท่านผู้อ่านนะครับ เพราะผมไม่เก่งขนาดนั้น...จะเน้นใช้งานมากกว่าและส่วนใหญ่เป็นความคิดของผมเองอาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนกับท่านก็ได้..ไปพิจารณาเอานะครับ..เพื่อความอยู่ให้รอดในตลาดที่มีแต่เสือสิงกระทิงแรดทั้งนั้น

     มาเริ่มกันเลยนะครับ เริ่มแรกผมจะดูอารมณ์ของตลาดก่อนโดยดูจากกราฟของ SET ก่อนว่าเป็นช่วงขาขึ้นหรือขาลงหรือพักตัว ถ้าเล่นหุ้นอย่างเดียวผมจะดูว่าเป็นขาขึ้นอย่างเดียวเพราะขายก่อนไม่ได้ต้องซื้อหุ้นก่อนค่อยขายได้(สำหรับเม่า..แต่ถ้ารายใหญ่ยืมหุ้นมาขายก่อนได้ครับ)

 
   ดูจากกราฟ SET แล้วผมคงไม่เล่นหุ้นช่วงนี้นะครับ อารมณ์ตลาดไม่ค่อยสู่ดีเท่าไร..ใครจะเชียร์หุ้นตัวไหนมาผมก็คงไม่เล่นนะครับแต่ผมจะหาหุ้นไว้ช่วงนี้แหละครับ...หาไว้หลายตัวเพื่อเลือกได้รอตลาดกลับมาน่าเล่นอีกครั้งครับ..ตลาดกลับมาเมื่อไรเจอกันใหม่นะครับ >_<